เผยภาพงานแต่ง โบว์ เมลดา แจงแม่บ่นอยากอุ้มหลาน

dasdas
0
 

โบว์ เมลดา แจงแม่บ่นอยากอุ้มหลาน แค่พูดขำๆ รับมีคุย อาเล็ก ธีรเดช เรื่องอนาคต เผยแฟนหนุ่มอยากแต่งงานแล้ว ฟุ้งภาพงานแต่งในฝัน

ขึ้นแท่นเป็นนางเอกงานชุกอีกคน สำหรับ โบว์ เมลดา สุศรี ที่ทั้งงานละคร อีเวนต์ และพรีเซ็นเตอร์ จ่อคิวแน่น แถมล่าสุดเพิ่งปล่อยซิงเกิลใหม่ “แนะนำให้เป็นแฟนเรา” ออกมาเอาใจคนโสดไปอีก แต่สถานะหัวใจตัวเองไม่โสด เพราะมีหวานใจหนุ่มหล่อ อาเล็ก ธีรเดช จับจองดูแลเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด สาวโบว์ ออกมาให้สัมภาษณ์อัพเดตเรื่องความรัก หลังคุณแม่บ่นว่าอยากอุ้มหลาน พร้อมฟุ้งภาพงานแต่งในหัวที่ถึงขนาดคุยกับแฟนหนุ่ม อาเล็ก ถึงเรื่องชุดแต่งงานแล้ว ก่อนพูดลอยๆ ใส่แหวนทุกนิ้ว ยกเว้นนิ้วนางอ่ะ!!

ถามถึงที่คุณแม่ของเราออกมาบอกว่าไม่อยากได้ลูกชาย แต่อยากได้หลาน? “คือแม่พูดให้ฟังหลายรอบแล้วว่าอายุ 27 28 มันก็ถึงช่วงวัยที่ควรจะมีลูก เพราะด้วยสภาพร่างกายมันพร้อมแล้วแหละ แต่ว่าด้วยเราก็อยากทำงานก่อน เอาจริงๆ ที่แม่พูดก็ตลกดี แต่โห…เขามาขอหรือยังแม่ จะรีบข้ามขั้นไปไหน ที่พูดนี่ก็ไม่ได้บังคับ ไม่ต้องรีบๆ”

แต่นิ้วว่างอยู่? “ก็ใส่ทุกวงทุกนิ้วแล้ว ยกเว้นนิ้วนางอ่ะ (บอกใครหรือเปล่า?) พูดลอยๆ(หัวเราะ) (แล้วพอคุณแม่พูดแบบนี้ อาเล็กว่ายังไงบ้าง?) พี่อาเล็กไม่ได้คิดอะไรเลย มันตลกอ่ะ แม่หนูก็ตลกพูดไปอย่างนั้นแหละ ให้พี่ๆ นักข่าวจอยกันไป คือเขาก็อยากมีหลานนั่นแหละ กลัวในอนาคตว่าถ้าอายุมากเกินไปแล้วมันจะมียาก เพราะด้วยยุคสมัยนี้หลายๆ คนก็มียากขึ้นแล้วเนอะ แต่ถ้าจะให้ฝากไข่ก็แพงไปนิดนึง”

คุณแม่เปรยแบบนี้แสดงว่าเขามั่นใจในตัวพี่อาเล็กด้วยหรือเปล่า? “ไม่…ไม่รู้ เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของอนาคต เพราะว่าเรื่องหัวใจวินาทีเดียวก็เปลี่ยนกันได้ อย่าไปคาดหวังว่าจะต้องแต่งกับคนโน้นคนนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนกันได้ (แต่คุณแม่พูดบ่อยมากเรื่องอยากอุ้มหลาน?) ใช่ๆ แม่ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เขาไม่ได้อยากมีจริงๆ หรอก ถ้ามีตอนนี้ก็ไม่ได้ป่ะ ข้ามขั้นไปเลยน่ะ แต่ถ้าพูดถึงสมัยนี้จะท้องก่อนแต่งจะอะไรก็ตามขอให้สองคนรักกันก็โอเค ถือไม้เท้ายอดทองกระบองเท่านี่…กระบองยอดเพชร(หัวเราะ)”

ย้ำอยู่ตลอดว่าอย่าไปคาดหวังเรื่องความรัก เป็นเพราะอะไร? “จริงๆ เราก็เห็นตัวอย่างกันหลายคู่แล้ว ไม่ว่าจะกี่ปีหรือว่าอะไรยังไงก็ตาม ความรักยังไงก็ไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น ต่อให้พ่อแม่เราแต่งงานกันไปแล้วสุดท้ายคนเราก็ต้องมีสเปซเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ต่างพ่อต่างแม่อ่ะเนอะ ขนาดพ่อแม่เรา เรายังตีกับพ่อแม่เลย เราก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะตีกับลูกคนอื่นบ้าง”

แสดงว่ายังไม่เห็นภาพงานแต่งในหัวเลยสิ? “เห็น…ฉันวาดฝันเอาไว้เลยว่างานแต่ฉันจะต้องเป็นแบบนี้ๆ เจ้าบ่าวเป็นอย่างนี้ๆ ถามว่าเคยคุยเรื่องนี้กับพี่อาเล็กไหม ก็เคยคุยค่ะ เราเป็นพวกสร้างฝันกันอยู่แล้ว ฟุ้งเต็มหัวเลย บางทีก็ต้องปัดออกกันบ้างเพราะไปเรื่อยๆ (งานแต่งที่วาดฝันเอาไว้เป็นยังไง?) จริงๆก็ชอบดอกไม้แหละค่ะ ดอกไม้เยอะๆ แต่ว่าดูจากหลายๆ งานแต่งกับพี่ๆ แล้วก็คือเสียงบไปกันดอกไม้เยอะมาก หรือว่าถ้ามีร้านดอกไม้ร้านไหนอยากจะสนับสนุนก็คิดไว้ก่อนได้เลยค่ะ เพราะว่าเวลาเราอยู่กับดอกไม้แล้วเราสวยมาก เราจะเหมาะกับดอกไม้จริงๆ”

ต้องเป็นธีมแบบไหน? “จริงๆ ก็มินิมอล คัลเลอร์ฟูล สบายๆ ดูเข้าใจง่ายอะไรแบบนี้แหละค่ะ (เตรียมกี่ชุดดี?) ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พอถึงโมเมนต์นั้นเราอาจจะประหยัดงบแล้วแหละ เพราะว่างานแต่งก็เป็นเงินที่ค่อนข้างจะเสียงบไปเยอะเหมือนกัน (เท่าที่พูดมาเหมือนทำการบ้านไว้แล้วเลย?) อุ๊ย! โดนจับโป๊ะได้ มันก็ต้องคิดไว้ล่วงหน้าแหละเพราะว่ามันเป็นเงินเป็นทอง อีกอย่างก็ขึ้นอยู่กับว่าเราแต่งกับใคร ถ้าเราแต่งกับมหาเศรษฐี เราก็คงได้เป็น 100 ชุดได้ละมั้ง แต่ถ้าแต่งกับเพื่อนๆ กัน เราก็ช่วยกันประหยัดงบก็ดี”

เคยเกริ่นกับพี่อาเล็กบ้างไหม? “ไม่รู้อ่ะ ก็มีคุยกันบ้างแหละว่าอยากให้ชุดเป็นแบบนี้ๆ แต่สุดท้ายแล้วจะได้แต่งงานหรือไม่ได้แต่งก็…คือมีคุยเรื่องชุดกับเขาแล้ว แต่หนูจะพูดตลอดว่าสุดท้ายแล้วถ้าเราคุยเรื่องนี้ไปจะใช้เป็นอินสไปเรชั่นกับคนในอนาคตของพี่ก็ได้หนูไม่ว่า เพราะว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต เขาก็โอเค มันเป็นเรื่องปกติแหละ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะได้เลิกกันไหม หรือว่าสุดท้ายจะได้แต่ง”

แล้วพี่อาเล็กดูมีวี่แววเหมือนอยากแต่งงานไหม? “เขาอยากแต่งอยู่แล้วค่ะ เพราะหนูสวย…อ่อ! ไม่ใช่ (ยิ้ม) เขาอยากแต่งเพราะว่าด้วยวัยของเขาแหละ 33 แล้ว ถามว่าเป็นโมเมนต์แบบไหนอยู่ๆ ถึงได้คุยกันเรื่องแต่งงาน คุยไปเรื่อยค่ะ บางทีเห็นคนนั้นคนนี้แต่งงาน บางทีเปิดเลื่อนไปเจอชุดแต่งงาน เราก็อยากจะยื่นให้เขาดูว่าเป็นอย่างนี้ดีไหม เพราะสุดท้ายแล้วงานแต่งเป็นงานของคนสองคน ถ้าจูนแล้วเข้าใจกันมันก็จะดีกว่า”

อย่างที่บอกว่าอาเล็กอยากแต่งงานอยู่แล้ว แสดงว่าตอนนี้ติดอยู่ที่เราเหรอ หรือว่ารอแค่เขามาขอก็พร้อมเลย? “จริงๆ ก็ทั้งสองอย่างค่ะ เราเองก็พร้อม เขาก็พร้อม แต่ว่าเราก็ต้องทำงาน แล้วก็ด้วยวัย เมื่อก่อนเคยตั้งแพลนเอาไว้ว่าอายุ 27 คือแต่งงานมีลูกแหละ แต่ว่าด้วยการทำงานและรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้โตพอที่จะเป็นแม่คนขนาดนั้น ถ้าหนูมีลูกก็น่าจะโอ้โห! สงสารลูกมาเกิดเหมือนกันนะที่ต้องมาอยู่กับแม่แบบนี้อ่ะ เดี๋ยวรอแม่โตก่อนนะ ลูกต้องมีแม่เมื่อพร้อม ถามว่าอายุประมาณเท่าไหร่ดี คิดว่าก็คงประมาณ 30 ค่ะ”

ความสัมพันธ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? “ดีค่ะ สนุกดี เจอกันน้อยขึ้นทุกวันๆ เพราะว่าเราก็เต็มที่กับงาน ต่างคนต่างอยากจะมีชีวิตที่มันค่อนข้างประสบความสำเร็จทั้งคู่ ถามว่าเติมความหวานกันยังไง มีโทรหากันบ้าง นัดเจอกันบ้าง ยอมรับว่าก็มีงอแงเหมือนกัน งอแงกันทั้งคู่ เมื่อไหร่จะว่างตรงกันสักที เมื่อไหร่จะนู่นนี่นั่น”.

Post a Comment

0Comments
Post a Comment (0)

#buttons=(Accept !) #days=(20)

Our website uses cookies to enhance your experience. Learn More
Accept !
To Top